บทที่ 5 การควบคุมและการบริหารความเสี่ยง
Risk control and management
การควบคุมภายใน (Internal Control) คือ
กระบวนการปฏิบัติงานที่บุคลากรในองค์กร โดยคณะกรรมการบริหาร ผู้บริหารทุกระดับ
และพนักงานทุกคนมีบทบาทร่วมกันในการจัดให้มีขึ้น เพื่อสร้าง
ความเชื่อมั่นอย่างสมเหตุสมผลว่าการปฏิบัติงานจะบรรลุวัตถุประสงค์ของการควบคุมภายใน
วัตถุประสงค์ของการควบคุมภายใน
การจัดให้มีการควบคุมภายในขึ้นในองค์กร มีวัตถุประสงค์ 3 ประการดังนี้
1.
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการปฏิบัติงาน
(Effectiveness and
Efficiency of operations) โดยมุ่งเน้นให้มีการใช้ทรัพยากรขององค์กรในการดําเนินงาน
ซึ่งประกอบด้วย คน เงิน ทรัพย์สิน วัสดุ
เครื่องมือเครื่องใช้และเวลาให้เป็นไปอย่างประหยัดและได้ผลคุ้มค่า
มีการดูแลรักษาทรัพย์สินให้อยู่ใน สภาพพร้อมใช้งาน
มีการป้องกันมิให้ทรัพย์สินมีการสิ้นเปลือง สูญเปล่า เสียหาย หรือสูญหาย และปลอดภัย
จากการกระทําการทุจริต
2. ความเชื่อถือได้ของรายงานทางการเงิน (Reliability of financial reporting) ความเชื่อถือได้และความถูกต้องของรายงานทางการเงินเป็นสิ่งสําคัญต่อผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายใน
หรือ บุคคลภายนอกองค์กร ได้แก่ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน เจ้าหนี้ลูกค้า เป็นต้น โดยใช้เป็น
ข้อมูลประกอบการตัดสินใจและวางแผนการดําเนินงานในอนาคต
จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่ต้องทําให้เกิด
ความมั่นใจว่ารายงานทางการเงินขององค์กรให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง และมีคุณภาพ
3. การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ (Compliance with applicable laws and
regulations) เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายใด
ๆ ขึ้นกับองค์กร จากสาเหตุการละเว้นไม่ปฏิบัติหรือ
ปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับองค์กร รวมถึงข้อบังคับ
และกฎระเบียบขององค์กรเอง
แนวคิดการควบคุมภายในของ
COSO องค์ประกอบของการควบคุมภายในตามแนวคิดของ COSO มี 5 ประการ ได้แก่
1. สภาพแวดล้อมการควบคุม (Control Environment) การควบคุมภายในจะบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้เพียงใด ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ
ของสภาพแวดล้อมการควบคุมเป็นสําคัญ
โดยสภาพแวดล้อมการควบคุมเป็นเรื่องของการควบคุมภายในที่กําหนด เป็นโครงสร้าง
นโยบาย และระเบียบ วิธีปฏิบัติที่มีผลมาจากทัศนคติของผู้บริหาร
รวมถึงสร้างความตระหนัก ให้บุคลากรเกิดจิตสํานึกที่ดีในการปฏิบัติงานตามความรับผิดชอบ
2. การประเมินความเสียง (Risk Assessment) การประเมินความเสี่ยงเป็นการประเมินเพื่อทราบว่า
องค์กรมีความเสี่ยงอย่างไร และความเสี่ยงนั้น ๆ อยู่ในกิจกรรมหรือขั้นตอนใดของงาน
มีผลกระทบต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร มากน้อยเพียงใด
เพื่อนํามาพิจารณากําหนดแนวทางที่จําเป็นต้องใช้เพื่อให้เกิดความมั่นใจอย่างสมเหตุสมผล
3. กิจกรรมการควบคุม (Control Activities) กิจกรรมการควบคุมเป็นนโยบาย มาตรการ และวิธีการดําเนินงานต่าง ๆ
ที่ผู้บริหาร นํามาใช้เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าคําสั่งต่าง ๆ
ที่กําหนดขึ้นนั้นสามารถลด หรือควบคุมความเสี่ยงและได้รับการ
ตอบสนองปฏิบัติตามในเวลาที่เหมาะสม กิจกรรมการควบคุมประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ
4. การสื่อสารข้อมูล (Data Communications) หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับ
โดยผ่านช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารโดยผ่านทางสื่อกลางในการสื่อสาร
5. การติดตามประเมินผล (Monitoring) การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร
อาจทําให้ ระบบการควบคุมภายในมีประสิทธิภาพลดลง
จึงต้องมีการติดตามประเมินผลเพื่อให้ผู้บริหารมีความมั่นใจ
อย่างสมเหตุสมผลว่าระบบการควบคุมภายในนั้นยังคงมีประสิทธิภาพ
(
ที่มา : https://www.cad.go.th )
ความเสี่ยง (Risk) คือ การวัดความสามารถ
ที่จะดำเนินการให้วัตถุประสงค์ของงานประสบความสำเร็จ ภายใต้การตัดสินใจ งบประมาณ
กำหนดเวลา และข้อจำกัดด้านเทคนิคที่เผชิญอยู่ อย่างเช่น
การจัดทำโครงการเป็นชุดของกิจกรรม ที่จะดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่งในอนาคต
โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด มาดำเนินการให้ประสบความสำเร็จ
ภายใต้กรอบเวลาอันจำกัด ซึ่งเป็นกำหนดการปฏิบัติการในอนาคต
ความเสี่ยงจึงอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
(ที่มา : https://www.eg.mahidol.ac.th )
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง อาจมาได้จากหลายสาเหตุ เช่น
ระบบงานขององค์กร บุคลากร การเงินการคลัง การเมืองเศรษฐกิจ
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ลูกค้าหรือผู้รับบริการ สภาพการแข่งขัน
เป็นต้น และอาจมีแหล่งที่มาของความเสี่ยงทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร
ความเสี่ยงภายในองค์กร เช่น
– สถานที่ทำงานที่ไม่ปลอดภัย
– ระบบบัญชีที่ไม่น่าเชื่อถือ
– วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เอื้อต่อการสร้างประสิทธิภาพการทำงาน
– การฝึกอบรมพนักงานที่ไม่เพียงพอ
– ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest)
ความเสี่ยงภายนอกองค์กร เช่น
– การเปลี่ยนแปลงในกฎหมาย
– การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
– กระแสโลกาภิวัฒน์
– เสถียรภาพทางการเมือง
– การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภค
(
ที่มา : https://kmscpcru.wordpress.com )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น