บทที่ 13



บทที่ 13 การสร้างแบบจำลองข้อมูล

 ( Data Modeling )



แบบจำลองของฐานข้อมูล (Database Model)

        แบบจำลองข้อมูล คือ เครื่องมือในเชิงแนวความคิดที่ใช้ในการอธิบายข้อมูล โครงสร้างข้อมูล, ความสัมพันธ์ของข้อมูล, ความหมายของข้อมูล และเงื่อนไขบังคับความสอดคล้องกันของข้อมูล ซึ่งมีองค์ประกอบต่าง  ๆ โดยย่อดังนี้

         - เอนทิตี (entity) หมายถึง วัตถุ (object) หรือแนวคิดที่สามารถบอกความแตกต่างของแต่ละเอนทิตีได้ กลุ่มของเอนทิตีที่มีคุณสมบัติเหมือนกันจะเรียกว่า เอนทิตีเซต (entity set)
         - รีเลซันชิพเซต (relationship set) คือ ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี


            นอกจากเอนทิตี และรีเลชันชิพแล้ว แบบจำลองอี-อาร์ยังนำเสนอกฎข้อบังคับที่จำเป็นในการสร้างฐานข้อมูล ซึ่งในการนำเสนอนั้น โครงสร้างของฐานข้อมูลทั้งหมดจะถูกแทนด้วยแผนผังอี-อาร์ (E-R diagram) โดยมีสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ดังต่อไปนี้




                                                                                   ( ที่มารูปภาพ : https://th.wikipedia.org/wiki/ )

             รูปสี่เหลี่ยม (rectangles) ใช้แทนเอนทิตีเซต (entity set)
             - วงรี ใช้แทนแอตทริบิวต์ (attributes)
             - รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน (diamonds) ใช้แทนรีเลชันชิพ
             - เส้นตรง (line) ใช้

1. แบบจำลองของข้อมูล (Data Model)

     เป็นแบบจำลองที่ใช้สำหรับอธิบายถึงโครงสร้าง และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลภายในฐานข้อมูล จากรูปแบบที่เป็นแนวคิดที่ยากแก่การเข้าใจให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจ และจับต้องได้ง่ายขึ้น
โดยทั่วไป ภายในแบบจำลองของข้อมูล จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้

        1.ส่วนที่ใช้แทนข้อมูลต่าง ๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นฐานข้อมูล ซึ่งโดยทั่วไปมักจะแทน
ด้วยรูปสี่เหลี่ยม
        2.ส่วนของกฎต่าง ๆ ที่ใช้ควบคุมความถูกต้องของข้อมูลภายในฐานข้อมูล
        3.ส่วนของการกระทำต่าง ๆ ที่สามารถใช้งานร่วมกับฐานข้อมูล


2. ส่วนประกอบของแบบจำลองข้อมูล

       ส่วนประกอบของแบบจำลองข้อมูลสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ

              2.1ส่วนโครงสร้าง(structural) เป็นส่วนที่ประกอบด้วยกลุ่มสัญลักษณ์รวมทั้งกฎระเบียบที่เห็นพ้องต้องกันเพื่อใช้ในการสร้างฐานข้อมูล
              2.2ส่วนปรับปรุง(manipulative) เป็นส่วนที่กำหนดชนิดของการปฏิบัติการต่างๆกับข้อมูลซึ่งประกอบด้วย การอัปเดต หรือการเรียกดูข้อมูลจากฐานข้อมูลรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างฐานข้อมูล ซึ่งนิยมใช้ชุดคำสั่ง SQL ในการจัดการกับข้อมูล
              2.3ส่วนกฎความคงสภาพ (a set of integrity rules) เป็นกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการควบคุมความถูกต้องของข้อมูลเพื่อให้เกิดความมั่นใจในความถูกต้องและความแน่นอนของข้อมูลที่บันทึกลงในฐานข้อมูล


3. คุณสมบัติของแบบจำลองข้อมูลที่ดี

              3.1 แบบจำลองข้อมูลที่ดีต้องง่ายต่อความเข้าใจกล่าวคือ แบบจำลองข้อมูลควรใช้กฎเกณฑ์ทั่วๆ ไป โดยมีข้อมูลแอตตริบิวต์ที่อธิบายในรายละเอียดของแต่ละเอนทิตี
              3.2 แบบจำลองข้อมูลที่ดีต้องมีสาระสำคัญ และไม่ซ้ำซ้อน หมายถึงแอตตริบิวต์ในแต่ละเอนทิตี ไม่ควรมีข้อมูลซ้ำซ้อน โดยบางแอตตริบิวต์อาจเป็นคีย์นอก (foreign key) เพื่อใช้ในการอ้างอิงข้อมูลในอีกเอนทิตีหนึ่ง
              3.3 แบบจำลองข้อมูลที่ดีต้องมีความยืดหยุ่น และง่ายต่อการปรับปรุงในอนาคต กล่าวคือ แบบจำลองข้อมูลที่ดีไม่ควรขึ้นกับตัวแอปพลิเคชันโปรแกรม และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ นั่นหมายถึงความเป็นอิสระในข้อมูล

4. แบบจำลองฐานข้อมูล (Database Model)

            การตัดสินใจเลือกใช้แบบจำลองฐานข้อมูลชนิดใดเป็นสิ่งสำคัญต่อการออกแบบฐานข้อมูล โดยรายละเอียดการจัดการฐานข้อมูลหรือการจัดการคลังข้อมูล และต้องสนับสนุน หรือตั้งอยู่บนพื้นฐานของแบบจำลองฐานข้อมูลซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี้

            4.1แบบจำลองฐานข้อมูลลำดับชั้น (Hierarchical database model)
เป็นแบบจำลองของฐานข้อมูลที่ใช้อธิบายถึงบานข้อมูล ที่มีโครงสร้างของข้อมูลในแบบลำดับชั้น (Hierarchy) โดยมีจุดประสงค์เริ่มต้นเพื่อต้องการให้เป็นฐานข้อมูลที่สามารถขจัดการซ้ำซ้อนของข้อมูล (Data Redundancy)
            4.2แบบจำลองฐานข้อมูลเครือข่าย (Network database model)
    เป็นแบบจำลองของฐานข้อมูลที่ใช้อธิบายถึงฐานข้อมูลที่มีโครงสร้างของข้อมูลที่จำแนกตามความสัมพันธ์ของข้อมูล ที่ได้รับการพัฒนามาจากฐานข้อมูลที่มีโครงสร้างแบบ Hierarchy โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อกำหนดให้เป็นรูปแบบของโครงสร้างข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน
            4.3แบบจำลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational database model) 
     เป็นฐานข้อมูลที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติระบบฐานข้อมูลขึ้น เนื่องจากเป็นโครงสร้างของฐานข้อมูลที่มีการนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ทางด้านฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด
           4.4แบบจำลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุ (Object-Oriented database model)
เทคโนโลยีฐานข้อมูลแบบออบเจกต์ ได้ถูกนำเสนอเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น สกีมาของฐานข้อมูลแบบออบเจกต์จะประกอบไปด้วยชุดของคลาส (class) โดยที่แต่ละคลาส คือ ชุดของออบเจกต์ที่มีโครงสร้าง และพฤติกรรมอย่างเดียวกัน โครงสร้างของออบเจกต์ถูกกำหนดโดยใช้พรอปเพอร์ตี (property) ของคลาสสิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับฐานข้อมูลแบบออบเจกต์
           4.5 แบบจำลองฐานข้อมูลแบบมัลติไดเมนชัน (Multidimensional database model)
     แบบจำลองชนิดนี้ใช้งานกับคลังข้อมูล (data warehousing) โดยจะนำเสนอข้อมูลในลักษณะไดเมนชัน ทำให้วิวข้อมูลได้สองทางเพื่อให้สามารถมองเห็นปัญหาในธุรกิจ และสร้างวิธีการแก้ไขปัญหาได้ดียิ่งขึ้น







                                                                                       ( ที่มารูปภาพ : https://th.wikipedia.org/wiki/ )


5. ประเภทของความสัมพันธ์ของข้อมูล

        สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะดังนี้

         6.1ความสัมพันธ์แบบ One – to – One
เป็นความสัมพันธ์ที่แต่ละรายการของข้อมูล “A” มีความสัมพันธ์กับข้อมูล “B” เพียงรายการเดียวเช่น กรณีลูกค้าสามารถมีบัญชีเงินฝากได้เพียงบัญชีเดียวหรือกรณีที่แต่ละบัญชีเงินฝากสามารถมีเจ้าของบัญชีได้เพียงคนเดียว
         6.2ความสัมพันธ์แบบ One-to-many
เป็นความสัมพันธ์ที่แต่รายการของข้อมูล “A” มีความสัมพันธ์กับข้อมูล “B” มากกว่า 1 รายการเช่น กรณีลูกค้าสามารถมีบัญชีเงินฝากได้มากกว่า 1
         6.3ความสัมพันธ์แบบ Many-to-Many
เป็นความสัมพันธ์ที่แต่ละรายการของข้อมูล “A” มีความสัมพันธ์กับข้อมูล “B” มากกว่า 1 รายการแต่ในขณะเดียวกันแต่ละรายการของข้อมูล “B” ก็มีความสัมพันธ์กับข้อมูล “A” มากกว่า 1 รายการเช่นเดียวกันเช่น กรณีลูกค้าสามารถมีบัญชีเงินฝากได้มากกว่า 1 บัญชี และแต่ละบัญชีเงินฝากสามารถมีเจ้าของบัญชีได้มากกว่า 1 คน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น